มนุษย์พบเจอใครต่อใครเยอะ
เมื่อเจอแล้วก็เกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์เสมอ
ไม่มีใครสั่งตัวเองให้รู้สึกกับคนนั้นคนนี้
ตามใจอยากได้
จะชังหรือชอบ
จะเหม็นหน้าหรือพิศวาส
จะผ่านเฉยหรืออยากเก็บมาจินตนาการต่อ
ขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้น ‘ต่อติด’ กับใจเราอย่างไร
ยิ่งหมกมุ่นครุ่นคิดถึงใครในทางเพศมาก
คนเราจะยิ่งอยากมีอะไรกับคนคนนั้นขึ้นมาจริงๆ
โดยเฉพาะเมื่อมีโอกาส มีช่องทาง
แต่สำนึกแบบมนุษย์
ซึ่งมีมโนธรรมเป็นพื้นฐาน
มีสัญชาตญาณของจิตวิญญาณชั้นสูง
บอกตัวเองถูกว่า
ตนเองมีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์เอาจริง
ถ้าไม่ตกลงเป็นคู่กันแล้วขืนใจกัน
ก็รู้ว่านั่นเป็นการข่มเหงกัน
ถ้าตกลงมีอะไรกันทั้งที่เป็นของคนอื่น
ก็รู้ว่านั่นเป็นการละเมิดสิทธิ์ ผิดบาป
แต่ถ้าแค่คิดถึงคนมีเจ้าของ
หรือคิดถึงคนอื่นที่ไม่ใช่คู่ตนล่ะ ผิดไหม?
อันนี้เหมือนสัญชาตญาณ
ไม่ได้ให้คำตอบกับเราไว้
ปล่อยให้สับสน ไม่แน่ใจ
หลายคนจึงเกิดความรังเกียจอารมณ์ตนเอง
หลายคนเกิดความทรมานใจ
ขณะที่หลายคนยิ่งห้ามใจมากเท่าไร
ดันยิ่งอยากเอาจริงขึ้นเท่านั้น
ท่าทีปฏิบัติที่ถูกต่ออารมณ์บาป
จะช่วยให้ไม่เกิดปมซับซ้อนทางความคิด
แล้วก็ป้องกันการ ‘เผลอพลาด’ ได้ระดับหนึ่ง
พระพุทธเจ้าท่านรู้จักกฎธรรมชาติดีที่สุด
รู้ว่าอะไรเรียกผิดกฎ อะไรเรียกผิดบาป
วัดจากการที่ฝืนกฎแล้วเกิดความเดือดร้อน
ทั้งเดี๋ยวนี้และภายหน้า
ท่านจึงบัญญัติเรื่องศีลข้อ ๓ ไว้ชัดเจน คือ
อย่าไปผิดลูกผิดเมียคนอื่น
ซึ่งก็หมายถึงหญิงมีเจ้าของ
ถูกจองตัวด้วยของหมั้นเป็นต้นไป
รวมทั้งหญิงที่มีผู้เลี้ยงดู
ยังไม่เป็นตัวของตัวเองด้วย
ส่วนในแง่พฤติกรรมที่ตัดสินว่าละเมิด
การล่วงทางเพศกัน
ที่รองลงไปคือพยายามพูดโน้มน้าว
หรือหว่านล้อมเพื่อให้ได้มาซึ่งการล่วงเพศกัน
สรุปแล้ว ศีลข้อ ๓ ห้ามไว้สองอย่าง
คือ อย่าทำ และอย่าพูด
แต่ไม่ห้ามถึงขนาดว่า ‘อย่าคิด’
เพราะความคิดไม่ใช่สิ่งที่ใครจะควบคุมได้
พอเจอหน้าใคร ก็ต้องเกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์
และเมื่อเกิดอารมณ์รู้สึก
ความคิดต่างๆนานาก็ต้องผุดตามเป็นธรรมดา
นับจากความอาลัยโหยหา
ไปจนถึงจินตนาการทางเพศ
มนุษย์เป็นมนุษย์อยู่ได้
ไม่ตกต่ำลงกว่าความเป็นมนุษย์
ไม่ใช่เพราะคิดดีอยู่ตลอดเวลา
ไม่ใช่เพราะไม่คิดชั่วเลย
แต่เพราะมีมโนธรรมกั้นความคิดไม่ดีไว้ได้
ไม่ให้แพร่ลามออกมาเป็นการพูดและการทำ
และเมื่อไม่ทำ ไม่พูดตามที่คิดชั่วได้นานๆ
ในที่สุดความคิดชั่วก็จะเฉาตายไปเอง
คนคิดชั่วแต่ไม่พูดชั่ว
ไม่ทำชั่วตามที่คิด
จะกลายเป็นคนดีในที่สุด!
ที่เหลือจึงเป็นคำถามว่า
แค่คิด ควรเอาผิดไหม?
ปมชีวิตคู่ของหลายๆคนเกิดขึ้น
เมื่อเกิดการระแวง เกิดการหึงหวง
หรือเพราะเข้าใจว่าตัวเอง ‘รู้ทัน’
ที่คนรักคิดถึงใครอื่นอยู่
จะรู้จริงหรือคิดว่ารู้ก็ตาม
หนทางที่ดีที่สุด คือ มีปฏิกิริยาในทางดีต่อกัน
โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจว่า
ไม่มีมนุษย์คนไหนที่คิดถึงคนคนเดียวได้
แต่เพียงสัญญา หรือตั้งสัจจะร่วมกันว่า
จะอยู่ในศีลในธรรมด้วยกัน
มีกันและกันคนเดียว
แค่นี้ก็จะไม่อึดอัด
ไม่กลายเป็นอารมณ์ซ่อนเร้นเก็บกด
กระทั่งตบะแตกในวันหนึ่งขึ้นมา
ทั้งในแง่ราคะของคนถูกระแวง
และในแง่โทสะของคนขี้ระแวง!
— แนะนำหนังสือ
ชื่อหนังสือ: รักแท้มีจริง
เนื้อหา: ทำตัวเองให้เป็นแม่เหล็กดึงดูดรักแท้
อ่านฟรีที่: http://bit.ly/1OK5VSs
สั่งซื้อหนังสือ: http://bit.ly/Mm8LSe
ดูวิธีสั่งซื้ออย่างละเอียดได้ที่ http://bit.ly/1iISnJz