เด็กจบใหม่คนหนึ่ง มาขอคำปรึกษาหลังไมค์ พร้อมกับยื่นงบการเงินที่เขาบอกว่า มันช่างรันทดจริงๆ สำหรับคนยุคนี้
เงินเดือน 15,000.-
ค่าเช่าคอนโด 3,500.-
น้ำ-ไฟ-เน็ต-ศัพท์ 1,500.-
ค่าเดินทาง 2,500.-
ค่าอาหาร 4,500.-
ประกันสังคม 750.-
สำรองเลี้ยงชีพ 750.-
คงเหลือเป็นเงินใช้จ่ายอื่นๆ … 1,500 บาท หรือวันละ 75 บาท
นี่แค่สิ่งที่จำเป็นต้องใช่จ่ายจริงๆ เงินเดือนก็แทบจะหมดไปแล้ว … เขาว่า
“แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จะรวย โค้ชทำให้ผมรวยได้มั้ยอ่ะ” เด็กน้อยถามกวนๆหลังส่งงบการเงินให้ผมดู
ยังไม่พิมพ์คำตอบกลับไป มันก็สวนอีกว่า “สมัยนี้ไม่ง่ายเหมือนสมัยโค้ชแล้วมั้งครับ โค้ชโชคดีเนอะ ยุคโค้ชคนยังไม่ค่อยรู้เรื่องเงิน ใครรู้ก่อนก็ได้เปรียบ”
ยังไม่ทันพิมพ์คำตอบ (มันพิมพ์กันเร็วจังวะ) มันก็สำทับด้วยดอกสุดท้าย “ถ้าโค้ชมาอยู่ในยุคเดียวกับผมคงลำบาก”
จากนั้นมันก็ยังพรั่งพรูเหตุผลร้อยแปดที่ชีวิตมันคงรวยได้ยากต่อไป (ไม่เถียงเลย เพราะพิมพ์ไม่ทันมัน)
ด้วยความรู้สึกเห็นใจไอ้เด็กเวรคนนี้ ผมเลยตอบกลับไปด้วยความรู้สึกเอ็นดูเบาๆว่า …
ถ้า ….
เดือนๆนึง เงินมึงยังพอมีเหลืออยู่บ้าง
เวลามึงก็ยังเหลืออยู่อีกเยอะ ไม่งั้นคงไม่ว่างมาบ่นอะไรให้กูฟัง
พื้นที่สมองมึงก็ยังว่างไม่ได้ใช้งานอีกตั้งแยะ
ปากมึงยังมีเวลาพูดเรื่องไร้สาระ พูดดูถูกตัวเอง และอื่นๆได้อีกมาก
ตามึงยังมีเวลาดูเรื่องไร้ประโยชน์ หาอ่านในสิ่งที่ไม่ทำให้ตัวเองฉลาดขึ้น
หูมึงยังว่างไว้ค่อยฟังคอยเสือกเรื่องที่ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้นได้
แสดงว่า ‘มึงยังมีโอกาสรวยได้’
ถ้าแค่นี้เรียกว่าลำบาก ก็อย่าไปคิดถึงความร่ำรวยให้เปลืองลมหายใจเลย
ฟายยยยยย …
สุดท้าย … เด็กน้อยเงียบไป ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ จากหมายเลขที่ท่านเรียก @^_^@
(ที่มาบทความ : Mony)