หน้าหลักนิยาย
บันทึก Favorite
ตอนถัดไป
ขนาดตัวอักษร
เพิ่มขนาด
ลดขนาด
Sweet Coffee
ร้านกาแฟเล็กๆริมถนนที่ไม่ได้เป็นจุดเด่นสายตาใครนัก แต่เพราะมันเป็นสถานที่ที่ใกล้กับหอพักหลายแห่ง มันเลยทำให้ร้านกาแฟแห่งนี้ดูคนแน่นขึ้นมาทันตา และเหตุผลที่ทำให้มีลูกค้าวนเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย ก็เพราะคนชงที่ใส่ใจรายละเอียดจนเครื่องดื่มต่างๆจนมีรสชาติละมุนลิ้นน่าลิ้มลอง แต่…อีกอย่างที่สำคัญเลยและเป็นที่เลื่องลือนักก็คงจะเป็นพนักงานร้านของที่นี่ ที่หน้าตาดียันคนล้างแก้ว
นากาโมโตะ ยูตะเองก็คิดเช่นนั้น ใบหน้าที่ดูเหมือนเด็กน้อยกับท่าทีที่ดูแข็งขันเวลาทำเครื่องดื่ม มันสะกดใจเขาไม่ให้ไปไหนได้จริงๆ จนช่วงตอนเย็นหลังที่กลับมาจากมหาวิทยาลัยต้องแวะร้านกาแฟร้านนี้ทุกวัน เมนูก็ยังเป็นเมนูเดิมๆ
“อเมริกาโน่แก้วนึงครับ”
“รอซักครู่นะครับ”
รอยยิ้มกว้างของเด็กหนุ่มที่ชวนให้หัวใจของใครหวั่นไหวได้ ยูตะเองก็คงเป็นหนึ่งในนั้น เขาแอบเห็นนะว่ามีผู้หญิงหลายคนเลยแหละที่มาขายขนมจีบให้ แม้เจ้าตัวจะดูเอียงอาย แต่ก็ยังเล่นด้วยอีก ซึ่งบางทียูตะก็คิดว่าอยากจะกล้าคุยแบบนั้นบ้าง
“ได้แล้วครับ” เจ้าเด็กตัวสูงวางอเมริกาโน่บนโต๊ะ ก่อนจะส่งยิ้มบางๆ แล้วเดินกลับที่ของตน ทั้งๆที่รู้ว่าเด็กหนุ่มก็ทำแบบนี้กับลูกค้าทุกคน เหมือนคุณหมอที่ต้องดูแลคนไข้ ทว่าเขาก็อยากจะคิดข้างตัวเองบ้าง ว่ารอยยิ้มนั่นที่ส่งให้เขาน่ะมันพิเศษกว่าคนอื่น
แต่มันก็เป็นแค่ความคิด
“เฮ้อ..” ถอนหายใจออกมา ก่อนจะยกเครื่องดื่มสุดโปรดมาดูดให้คลายความคิดบ้าๆไปบ้าง
และมันก็เป็นอย่างนี้ทุกวัน จนวันนี้นากาโมโตะ ยูตะรวบรวมแรงใจพยายามจะหาเรื่องอื่นคุยให้ได้ ตั้งสติหลับตาอยู่หน้าร้าน แล้วค่อยผลักประตูที่มีเสียงกระดิ่งดังกรุ๊งกริ๊งไปทั่วร้าน คนตัวเล็กไปยืนหยุดเคาน์เตอร์อย่างเช่นทุกครั้ง โดยมีเด็กหนุ่มคอยรับออเดอร์
“เอ่อ..” จะคุยอะไรดีล่ะ อยากคุยอย่างอื่นที่ไม่ใช่แค่สั่งกาแฟ “มีเมนูอะไรแนะนำไหมครับ” อยากจะเขกหัวตัวเองเป็นร้อยรอบที่พูดออกไป เอาเถอะ…อย่างน้อยก็เป็นการยืดเวลาจากแต่ก่อนที่เข้ามาแล้วก็สั่งแต่อเมริกาโน่ละกัน
“เมนูที่ขายดีอยู่ตอนนี้ ก็อยู่บนกระดานเลยครับ แต่ว่า..ผมขอแนะนำเมนูให้พี่ได้ไหมครับ”
ฉ่า..
อยู่ๆยูตะก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ ไม่คิดว่าแค่ประโยคไม่กี่ครับ เด็กหนุ่มยิ้มง่ายจะตอบกลับยาวขนาดนี้
“ผมเห็นพี่กินแต่อเมริกาโน่ ลองเปลี่ยนเป็นอะไรที่หวานๆดูไหมครับ”
“…”
“ผมชอบคาราเมลปั่นนะ ผมว่าพี่น่าจะชอบนะครับ”
ไม่รู้ว่านี่เป็นกลวิธีการขายหรือเปล่า แต่รู้ตัวอีกทีก็พยักหน้าหงึกหงักกับเครื่องดื่มที่เด็กหนุ่มแนะนำไปแล้ว ทั้งๆที่นากาโมโตะ ยูตะเกลียดของหวานเป็นที่สุด
และต้องโทษใบหน้าหล่อกับรอยยิ้มที่ฆ่าคนได้จริงๆ ยูตะถึงต้องมานั่งทำใจกับเครื่องดื่มที่ดูแสนหวานจนน่าแสบคอ สุดท้ายก็ต้องยกขึ้นมาดูดอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ปากยังไม่ทันถึงหลอด แก้วคาราเมลปั่นก็หกกระจาย ตามด้วยเสียงร้องของตัวเขาเอง เพราะเด็กหนุ่มดันสะดุดจนทำเครื่องดื่มร้อนๆหกใส่มือเขานี่สิ
“ผะ ผมขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไรๆ” เห็นใบหน้าหงอยๆแบบนั้นใครจะไปโกรธหลงล่ะ อีกอย่างมือก็ไม่ได้โดนลวกจนร้ายแรง มีแค่รอยแดงนิดหน่อยเอง
“อ๊ะ!!” ยูตะก็ไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าเด็กนี้มันวิ่งเร็วขนาดไหน รู้อีกทีมือเล็กๆของเขาก็ถูกจับไปเสียแล้ว พร้อมๆกับสัมผัสความเย็นที่คนตัวสูงกำลังตั้งหน้าตั้งใจประคบน้ำแข็งให้ จนไม่รู้เลยว่าตอนนี้ยูตะหน้าแดงขนาดไหน
“พี่เจ็บมากไหมครับ” เงยหน้าขึ้นมาถามด้วยสายตาซื่อๆ ซึ่งยูตะก็ได้แต่ส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร และรู้สึกแปลกๆเหมือนไฟช็อตเมื่อมือของเด็กหนุ่มลูบหลังมือเขาเบาๆ
“เอ่อ..คือหายแล้วแหละมั้ง”
“ไม่เป็นไรแน่นะครับ”
“เห็นไหมว่ามันไม่แดงแล้ว”
“แต่กลับไปต้องทายาด้วยนะครับ” เด็กตัวสูงส่งสายตาดุๆไปหนึ่งที จนยูตะต้องเบือนหน้าหนีไม่รู้จะเป็นห่วงกันทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย อย่าทำให้คิดไปไกลได้ไหม แต่ในใจลึกๆก็อดยิ้มไม่ได้ ที่วันนี้ได้พูดคุยกับเด็กที่ปลื้มตั้งนานสองนาน
วันนี้สภาพอากาศดูไม่ค่อยดีเลย ท้องฟ้าที่เคยสดใสก็กลับมืดมัวมีเม็ดฝนเม็ดใหญ่ตกลงมาไม่หยุด นากาโมโตะ ยูตะก็ยังคงนั่งที่ประจำที่เดิมมองออกนอกหน้าต่างรอเครื่องดื่มสุดโปรด สุดโปรดของเด็กหนุ่มจอมยิ้มต่างหาก
“ดูเหมือนฝนจะตกนะครับ”
ยูตะหันไปหาต้นเสียงที่ยืนยิ้มร่าพร้อมยื่นเครื่องดื่มให้ ก่อนจะพยักหน้ารับประมาณว่า ใช่แล้วล่ะ
“พี่ไม่ได้พกร่มมา รอให้ฝนหยุดตกก่อนค่อยกลับก็ได้นะครับ”
“อืม..”
ทว่ายิ่งยูตะนั่งนานเท่าไหร่ เม็ดฝนก็เทกระหน่ำเหมือนฟ้ารั่ว ลูกค้าแต่ละคนต่างก็พากันเริ่มออกจากร้าน เพราะบางคนก็มีร่ม บางคนก็มีรถจอดอยู่หน้าร้าน รวมถึงพนักงานบางคนที่หมดหน้าที่ของตัวเองในช่วงเวลานี้ รวมถึงเด็กหนุ่มคนนั้นด้วยที่เดินออกจากหลังร้านพร้อมกระเป๋าเป้และไม่มีผ้ากันเปื้อน ก่อนจะเดินผ่านยูตะไปจนออกนอกประตู
บอกให้เรารอฝนหยุดตกแล้วค่อยกลับ แต่ตัวเองกลับชิ่งหนีเนี่ยนะ
ยูตะเบะปากออกมาอย่างไม่รู้ตัว เอนหัวพิงกับหน้าต่างใส หยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋าเปิดเข้าโปรแกรมนู้นนี่แล้วก็ปิดอย่างเบื่อหน่าย
ก็อกๆ
เสียงเคาะหน้าต่างมันทำให้คนที่พิงอยู่ต้องหันไปดู ก็พบกับเด็กที่เขากำลังนึกบ่นอยู่ในใจยืนยิ้มร่าแล้วชูร่มให้ดู
“กลับด้วยกันไหมครับ”
ข้อความบนกระดาษขาวแผ่นเล็กๆ ที่แปะหน้าต่าง มันทำให้ยูตะยิ้มออกทันที และไม่รอช้าที่จะรีบเดินออกจากร้านไปหาคนตัวสูงที่ยืนรออยู่
“เอ่อ..พี่พักอยู่แถวนี้ใช่ไหมครับ”
“ใช่”
“ผมก็เหมือนกันครับ เอ่อ..ผมชื่อวินวินนะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันนากาโมโตะ ยูตะ”
ใบหน้ายูตะตอนนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เหมือนกับใบหน้าของวินวิน เด็กหนุ่มตัวสูงกางร่มออกมาแล้วดึงให้คนตัวเล็กเข้ามาอยู่ด้วยกัน ค่อยๆเดินก้าวไปอย่างช้าๆ เหมือนว่าอยากเก็บช่วงเวลานี้ให้นานที่สุด
“ไม่มีวันไหนเลยนะครับที่ผมไม่เห็นพี่มานั่งในร้าน”
“ก็ร้านนี้ทำอเมริกาโน่อร่อยน่ะสิ”
“แค่นั้นจริงๆเหรอ” วินวินก้มถามยูตะที่ตอนนี้เขาเห็นเพียงแค่กลุ่มผมนุ่นสีน้ำตาล ซึ่งเจ้าตัวก็เอาแต่พยักหน้าไม่ตอบอะไรต่อ เด็กหนุ่มจึงต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นเอง
“มันชินแล้วนะครับที่เห็นพี่ประจำ ถ้